4 เรื่องต้องประเมินก่อนดูดไขมันหน้าท้อง

การดูดไขมันหน้าท้อง ต้องมีการตรวจอย่างละเอียดมากกว่าตำแหน่งอื่น ๆ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อการรักษา โดยที่อิสสวีร์คลินิก แพทย์จะมีการประเมินทั้งหมด 4 ส่วนของหน้าท้องดังนี้

1.ผิวหนังหน้าท้อง ต้องดูว่ามีความเต่งตึง หรือหย่อนคล้อยแค่ไหน มีรอยแตกลายหรือไม่ หากเคยผ่านการตั้งครรภ์มาก่อน ผิวหนังเสียความยืดหยุ่น อาจจะต้องพิจารณาการผ่าตัดดึงหนังร่วมด้วย แต่ส่วนใหญ่แล้วจะสามารถรักษาด้วยการดูดไขมันเพียงอย่างเดียวได้

2.ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง เป็นชั้นที่เราต้องการรักษาเป็นหลัก ในชั้นนี้จะเป็นไขมันที่มือเราสามารถบีบขึ้นมาได้ชัดเจน ในท่านที่ไขมันส่วนนี้เยอะ จะเห็นรอยแบ่งไขมันบริเวณช่วงสะดือ ทำให้เกิดเป็นไขมันหน้าท้องส่วนบน และหน้าท้องส่วนล่างแยกกัน ส่วนมากแล้วในผู้หญิงมักจะมีการสะสมไขมันช่วงใต้สะดือมากกว่าเหนือสะดือ

3.ชั้นกล้ามเนื้อ ต้องดูว่ากล้ามเนื้อหน้าท้องมีปัญหาหรือไม่ โดยเฉพาะในผู้ที่เคยตั้งครรภ์ อาจมีภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องหย่อน หรือกล้ามเนื้อแยกตัว อาจทำให้การรักษาไม่เป็นผลดีหรือในบางท่านอาจมีโรคบางอย่างที่ทำให้หน้าท้องป่องออกมาจากการที่กล้ามเนื้อหน้าท้องไม่แข็งแรง

4.ไขมันในช่องท้อง เป็นไขมันที่อยู่รอบ ๆ ลำไส้ เป็นไขมันที่อยู่ลึกลงไปในอวัยวะภายใน ซึ่งถ้ามีมากก็สามารถดันให้ท้องป่องออกมาได้มาก จะพบปัญหานี้ในผู้ชายส่วนมากที่ท้องป่อง แต่ตรวจแล้วไขมันไม่ได้อยู่ชั้นด้านนอกทำให้ไม่สามารถรักษาด้วยการดูดไขมันได้ ท่านที่ไขมันส่วนนี้เยอะ ต้องใช้การลดไขมันด้วยวิธีธรรมชาติ คุมอาหาร ออกกำลังกายเป็นหลัก

การดูดไขมันหน้าท้อง จะต้องคำนึงความแตกต่างของแต่ละท่าน ที่อิสสวีร์ จึงต้องมีการประเมิน และวางแผนการดูดอย่างละเอียดก่อนทุกเคส เรียกว่าเป็นการ design case by case ซึ่งลักษณะการดูด และผลลัพธ์ที่ได้ จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ทุกท่านจึงควรได้รับการตรวจจากแพทย์ก่อนที่จะตัดสินใจเข้ารับการรักษา แพทย์ของเรามีหลักการเน้นการดูดเพื่อให้ได้รูปทรงที่สวยงามเป็นหลัก ส่วนปริมาณไขมันที่ดูดออกไม่ใช่สิ่งสำคัญเท่ากับรูปร่างโดยรวมทั้งหมด การดูดจะต้องมีการนำไขมันออกในปริมาณที่พอดี และต้องมีการเกลี่ยไขมันระหว่างรอยต่อบริเวณที่ดูด และบริเวณที่ไม่ได้ดูด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด