Sculptra vs Ulthera แตกต่างกันอย่างไร ควรเลือกอะไรดี

Close up of young attractive caucasian woman with dark hair in stylish hairstyle and naked shoulders touching face with fingers, gently smiling, posing with relaxed face expression and closed eyes
Sculptra และUlthera ต่างเป็นเทคนิคยอดนิยมที่ใช้ในการยกกระชับผิว แต่ทั้งสองวิธีนี้ทำงานแตกต่างกัน ขั้นตอนการทำต่างกัน ซึ่งเป็นหัตถการที่เหมาะกับคนกลุ่มต่างกันและให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน มาดูกันว่า Ulthera และ Sculptra คืออะไร ทำงานแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
กลไกการทำงานต่างกันอย่างไร
– Sculptra คือฟิลเลอร์ชนิดเติมเต็ม ประกอบด้วยสาร Poly-L-lactic acid (PLLA) เมื่อฉีดเข้าใต้ผิวหนัง PLLA จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในบริเวณที่ฉีด ค่อย ๆ เติมเต็มริ้วรอย ร่องลึกในจุดที่มีปัญหา ช่วยให้ผิวหน้าแข็งแรง ยกกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ผิวเด้งและนุ่มอิ่มฟูขึ้น ผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นหลังการฉีดประมาณ 1-2 เดือนและอยู่ได้นานถึง 2 ปี
– Ulthera เป็นเทคโนโลยี High-Intensity Focused Ultrasound (HIFU) ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงส่งพลังงานความร้อนไปยังชั้นใต้ผิวหนังลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อส่วนบน (SMAS) กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยให้ผิวหน้ายกกระชับ เก็บกรอบหน้า ผิวเต่งตึงและเรียบเนียนขึ้น ผลลัพธ์จะชัดเจนหลังการรักษาประมาณ 2-3 เดือนและคงอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
Sculptra เหมาะกับใคร
ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึก ผิวหย่อนคล้อย ต้องการเติมเต็ม volume ให้ใบหน้า
ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและดูอ่อนเยาว์
ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้นาน ไม่ต้องทำซ้ำบ่อย ๆ
Ultherapy เหมาะกับใคร
ผู้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิว เก็บกรอบหน้า
ผู้ที่มีริ้วรอย ร่องลึก
ผู้ที่ไม่ต้องการการผ่าตัด หรือมีรอยแผลจากการฉีด
หากผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อยทั้ง Ultherapy และSculptra คือหัตถการที่ช่วยยกกระชับใบหน้าให้เต่งตึงและดูอ่อนวัยขึ้น ซึ่งระยะเวลาในการรักษาจะใช้เวลาที่ต่างกันและคงผลลัพธ์ได้ต่างกัน ผู้ที่ต้องการทำหัตถการควรศึกษาและเลือกวิธีที่เหมาะสมกับความต้องการ หากยังไม่รู้ว่าควรฉีด Ultherapy และSculptra ที่ไหนดี สามารถค้นหาคลินิกที่ใช่ได้ที่ https://thaiclinics.com/