สิ่งที่ต้องรู้ในการซื้อประกันชีวิตลดหย่อนภาษี

เป็นทางเลือกสำหรับการวัยทำงานในปัจจุบันที่สามารถป้องกันความเสี่ยง เสริมความมั่นคงและมั่งคั่ง รวมถึงเป็นการออมทรัพย์ให้แก่ตนเองได้อย่างดี สำหรับการทำประกันชีวิตลดหย่อนภาษี ที่ไม่ใช่แค่การลดหย่อนภาษี แต่คุณยังได้ประโยชน์อีกมากมายจากการทำประกันชีวิต แค่เพียงจะต้องเลือกบริษัทและประเภทที่เหมาะสม ว่าแล้วเราไปดูสิ่งที่ต้องรู้ในการซื้อประกันชีวิตลดหย่อนภาษีที่จะช่วยให้คุณได้เตรียมความพร้อมให้กับตนเอง

  1. การทำประกันชีวิตลดหย่อนภาษี ไม่ใช่การออมทรัพย์หรือการฝากเงินเพื่อใช้ในอนาคต ถึงแม้จะมีลักษณะที่คล้ายกับการสะสมเงินก็ตาม แต่การทำประกันชีวิตจะเป็นการตกลงและทำสัญญาที่มีผลในระยะยาวโดยจ่ายเบี้ยตามที่ได้พูดคุยและกำหนดโดยทางบริษัทประกัน ดังนั้น การทำประกันชีวิตลดหย่อนภาษีไม่ได้หมายความว่าคุณจะสามารถฝาก เบิกและถอนเงินได้ทุกช่วงเวลาที่ต้องการ
  2. ในการเลือกซื้อประกันชีวิต ไม่ควรซื้อเพื่อสำหรับการลดหย่อนภาษีเพียงอย่างเดียว แต่ควรที่จะพิจารณาถึงการคุ้มครอง ประโยชน์ในการบริหารความเสี่ยงของประกันชีวิตที่คุณเลือก เพื่อที่จะวางแผนการเงินได้อย่างเหมาะสม
  3. การเลือกซื้อประกันชีวิตลดหย่อนภาษี ไม่ได้มีแค่เพียงประเภทเดียว แต่ยังมีหลากหลายรูปแบบให้คุณสามารถเลือกได้ ไม่ว่าจะเป็น ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ประกันชีวิตที่ครอบคลุมในเรื่องการออมเงิน การคุ้มครองชีวิตและครอบครัว ดังนั้น ศึกษาประเภทเพื่อเลือกให้เหมาะสมมากที่สุด
  4. ศึกษาเรื่องการจ่ายเบี้ยประกันอย่างละเอียด ซึ่งในการทำประกันชีวิตลดหย่อนภาษีหรือประเภทอื่นๆ จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น เพื่อให้คุณสามารถวางแผนการเงินและไม่กดดันตนเอง มีสำหรับการจ่ายและรับภาระค่าเบี้ยในระยะยาว ควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ

การทำประกันชีวิตลดหย่อนภาษี เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการวางแผนการเงินและบริหารความเสี่ยงให้กับชีวิต แต่ควรศึกษาและทำความเข้าใจอย่างละเอียดเพื่อความเหมาะสมและการเลือกที่ดีที่สุด เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยทำให้หลายคนได้เข้าใจถึงทางเลือกขแงการลดหย่อนภาษีด้วยการทำประกันชีวิต และหากใครที่กำลังมองหาแผนประกันชีวิตที่สามารถนำมาใช้ในการลดหย่อนภาษีได้อยู่ เราขอแนะนำ คิง ไว พรีเมียร์ เซฟวิ่ง18/8 ออมสั้นกำลังดี คุ้มครองนานกว่า 2 เท่า แบบประกันชีวิตและออมทรัพย์ระยะกลางที่กำลังดี คุ้มครองไม่สั้นไป และชำระเบี้ยไม่ยาวเกิน! ชำระเบี้ยประกันต่อเนื่องแค่ 8 ปี แต่ได้รับความคุ้มครองนอกเหนือจากการออมอย่างต่อเนื่องสูงถึง 18 ปี พร้อมสิทธิประโยชน์รับเงินคืนอย่างต่อเนื่องทุกปี ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 2 ถึงครบกำหนดสัญญารวมสูงสุดถึง 180%